สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินก็จะเอา รีวิวจากลูกค้า
รพ.ไอดีของเรามาอัพเดท ให้ได้รับชมกันครั้งนะคะ
สำหรับวันนี้เพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาใบหน้าใหญ่,กรามเหลี่ยม,คางไม่ได้รูป,โหนกสูง
หรือปัญหาที่เกี่ยวกับโครงหน้า
อย่าพลาดรีวิวนี้เป็นอันขาดนะคะ
ซึ่งลูกค้าที่จะมารีวิวให้เราฟังท่านนี้
เป็นลูกค้าชาวญี่ปุ่น
ที่ได้เดินทางมาทำศัลยกรรมกับ
รพ.ไอดี ประเทศเกาหลีนะคะ
เรามาติดตามกันเลยค่ะ
ก่อนศัลยกรรม
สวัสดีค่ะ
ก่อนศัลยกรรมเรามีปัญหาโครงหน้าใหญ่ค่ะ
ก็เลยรู้สึกว่าเป็นปมด้อยมาตลอดเลย
นอกจากโครงหน้าที่ใหญ่
แล้วก็กรามเหลี่ยมแล้ว
โหนกเราก็สูง แล้วก็นูนออกมามากค่ะ
เวลายิ้ม หรือหัวเราะ
ก็จะหน้าบานมากๆ ก็เลยทำให้เป็นคนขาดความมั่นใจ
ไม่กล้าพูด ต่อหน้าคนเยอะๆ
หรือเวลาต้องรายงาน พูดหน้าชั้นเรียน
ก็จะไม่มีความมั่นใจมากๆเลย
เราก็เลยคิดจะทำศัลยกรรมมาตั้งนานแล้วค่ะ
ก็หาข้อมูลการทำศัลยกรรมมานานมากๆเลย
ทั้งในญี่ปุ่นเอง แล้วก็ต่างประเทศ
ซึ่งเราก็หาข้อมูลในอินเทอร์เนทมาเรื่อยๆจนได้เจอชื่อ
รพ.ไอดี ที่เกาหลีค่ะ
ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องไปทำศัลยกรรมที่ต่างประเทศ
แต่เมื่อค้นข้อมูลต่างๆดูแล้ว
เห็นว่าประเทศเกาหลีมีเทคโนโลยีทางการแพทย์
ที่ก้าวหน้ามาก เราก็เลยสืบค้นข้อมูล
รพ.ไอดีเลยค่ะ ประวัติคุณหมอ ดูรีวิว ต่างๆนานๆ
จนสุดท้ายก็มั่นใจแล้วก็เลือกมาศัลยกรรมที่นี่ค่ะ
โดยเราก็ติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่
พูดญี่ปุ่นได้ที่ทำงานที่ รพ.ไอดี
ให้เขาจองคิวต่างๆให้ค่ะ
และเขาก็แจ้งว่าจะมีล่ามคอยดูแลเราตลอดเวลาที่ทำศัลยกรรมกับทาง
รพ. ค่ะ
เพราะ เขาเข้าใจว่า การทำศัลยกรรม
ในต่างประเทศ ที่ไม่ใช่ประเทศของตัวเอง
ภาษา
เป็นเรื่องแรกที่เราจะต้องพิจารณาเลยค่ะ ดังนั้นเมื่อเขามีล่ามบริการให้เราแล้ว
เราก็เลยยิ่งมั่นใจค่ะ
วันที่ปรึกษา
จากญี่ปุ่นมาเกาหลี
ก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ
เมื่อเรามาถึงที่รพ.ไอดี ที่นี่เป็นรพ.ใหญ่มากเลยค่ะ
อำนวยความสะดวกดีมาก
ไม่ว่าจะเป็น พนง.ตอนรับ หรือ
จนท.ต่างๆก็ดูแลเราดีมาก
พอถึง รพ.เราก็เข้าปรึกษาเลย โดยเราจะต้องมีถ่ายรูป
ถ่ายเอกซเรย์ ถ่ายซีทีสแกน
ต่างๆนานๆค่ะ แล้วก็มี
ที่ปรึกษาผู้หญิง เข้ามาให้คำปรึกษาเราค่ะ
ว่าเราไม่พอใจใบหน้าของเราส่วนไหน
อยากจะแก้ไขให้มันออกเป็นยังไง
ซึ่งเราเนี่ยอยากจะให้ใบหน้าออกมาเล็ก
ลดกรามเหลี่ยม ไม่อยากให้โหนกสูง
เพราะว่ามันจะดูมีอายุค่ะ
แต่ก็ต้องให้มันออกมาธรรมชาติด้วย
เพราะเราไม่ชอบคางที่มันแหลมเวอร์จนเกินไป
คุณผู้ช่วยก็แนะนำ
ให้แก้ไขปัญหาของเราโดยการศัลยกรรมลดโหนกแก้ม
+ศัลยกรรมวีไลน์ค่ะ
ซึ่งเราก็คิดไว้อยู่แล้ว
ว่าเราจะมาทำสองอย่างนี้ 555
พอหลังจากนั้นคุณหมอก็จะเข้ามาให้คำปรึกษาเราอีกรอบค่ะ
จับใบหน้าเรา ดูผลเอกซเรย์
แล้วก็แจ้งว่า จะสามารถลดกราม ลดคาง ลดโหนก
ได้กี่เซ็น กี่เซ็นนะ
เพราะว่าต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ให้ผ่าตัด
ไปโดนเส้นประสาทใบหน้า เพราะว่า
ถ้าเราผ่าตัดไปใกล้เส้นประสาทหรือ
โดนเส้นประสาทเลยเนี่ย
จะมีปัญหาตามมากมายค่ะ เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าไม่ทำงาน เป็นต้นค่ะ
วันผ่าตัด
วันต่อมาเราก็ผ่าตัดเลยค่ะ
ซึ่งเราจะต้องลดอาหาร ลดน้ำ ห้ามกินอะไรทั้งสิ้น
ก่อนการผ่าตัด 8 ชม.ค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น หมากฝรั่ง ลูกอม น้ำเปล่า ก็ห้ามค่ะ
เพื่อความปลอดภัย
และความสวยของเรา ก็ต้องอดทนค่ะ 55555
แล้วก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด
ห้ามทาครีม หรือ ครีมกันแดดอะไรทั้งสิ้น
ต้องหน้าเกลี้ยงๆเลยค่ะ ต่างหู
เครื่องประดับ ยาทาเล็บ ก็ห้ามค่ะ
ก่อนผ่าตัด ก็จะมีการตรวจร่างกายต่างๆนานๆ
ตรวจเลือด ตรวจความดัน
แล้วก็อีกหลายอย่างค่ะ ซึ่งเราก็จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง
หลังจากนั้นเราก็ไปพบกับคุณหมออีกรอบค่ะ
เพื่อเช็คว่า เราต้องการทำอย่างนี้นะ
หน้าจะออกมาประมาณนี้นะ เท่านี้นะ
ตามที่เราต้องการค่ะ หมอก็วาดๆๆขีดๆ
เต็มหน้าไปหมดเลยค่ะจากนั้นก็เปลื่ยนชุด
เข้าห้องผ่าตัดได้เลยค่า
ซึ่งเมื่อเข้าห้องผ่าตัดแล้ว
เราก็หลับไปเลยยยค่า หลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลยย
หลังผ่าตัด
พอผ่าตัดเสร็จ
เราก็ขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยค่ะ
ฟื้นมาตอนแรก มึนๆงงๆมากเลย
เสร็จแล้วเหรออ
รู้สึกมีสายอะไรเต็มมือไปหมด
รู้สึกว่าหน้าเต่งๆบวมๆ งงๆค่ะ
ซึ่งก็จะมีพยาบาลเข้ามาแจ้งว่า
จะสามารถกินน้ำได้กี่โมง
ถ้าเจ็บให้กดปุ่มเรียกพยาบาล
หรือถ้าเจ็บหรือ ปวดก็กดปุ่มนี้นะ
ก็จะมียาแก้ปวดผ่านทางสาย
เหมือนน้ำเกลือค่ะ
ตอนแรกก็
มึนๆงงๆค่ะไม่รู้เขาพูดไรบ้าง เพราะว่าพึ่งตื่น
หน้าก็ตึงๆชาๆไปทั้งหน้าค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกปวดอะไรมากมาย
ตอนนั้นรู้สึกว่ามีเลือดค้างอยู่ในคอ
คอแห้งอยากกินน้ำมาก
แต่ว่าก็ต้องรอค่ะ
เพราะหลังผ่าตัดเขาจะไม่ให้เรากินน้ำโดยทันที
หลังผ่าตัด
1 วัน
สำหรับเคสเรา ต้องนอน รพ.หนึ่งคืน
วันถัดมา ก็ออกจาก รพ.ได้ค่ะ
ก่อนออกจากรพ.
คุณพยาบาลก็เอามาร์คลดบวมมามาร์คให้ด้วย
รู้สึกสบายหน้ามากเลยค่ะ ชอบๆ
55555
หลังจากนั้น คุณพยาบาลก็จะมาแจ้ง
เรื่องการทายา ทานยา
การรักษา
ดูแลตัวเองเมื่อกลับไปบ้าน ว่าต้องประคบอุ่น ประคบเย็น
ยังไงบ้าง ทานอาหารอะไรได้บ้าง
ก็จะอธิบายให้เราฟัง แล้วก็มี
ใบอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่น
ให้เราด้วยค่ะ
ตอนนี้อาการ ก็ยังบวม ตึงๆ ชาๆค่ะ
รู้สึกเจ็บแบบตึ้บๆบ้าง
แต่ก็ไม่ได้รุนแรงค่ะ
อาจจะมีปัญหาที่อ้าปาก หรือ พูดไม่ค่อยถนัดบ้าง ก็เท่านั้นค่ะ
หลังผ่าตัด 3 วัน
เมื่อผ่าตัดครบ 3 วันแล้ว
เราก็จะต้องเข้าไปเชคอัพ แล้วก็ทำทรีทเมนต์ลดบวมที่ รพ.ค่ะ
ซึ่ง คุณพยาบาลจะดูแผลให้เรา
ว่าสะอาดดีไหม มีการติดเชื้อ หรืออักเสบตรงไหนบ้างรึเปล่า
หรือมีอาการเจ็บปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า
คุณพยาบาล ก็จะทำความสะอาดแผล
ให้เราอย่างละเอียดทั้งแผลในช่องปาก
และแผลที่ข้างหูตรงจอนค่ะ
ซึ่งคุณพยาบาลก็จะแจ้งว่าเราจะต้องบ้วนปาก
ให้สะอาดๆๆ
เพราะว่าเรามีแผลที่เย็บไว้อยู่ในปาก
ถ้าไม่สะอาดอาจจะติดเชื้อได้ค่ะ
แต่ว่าตอนนี้อาการบวมก็ลดไปจากวันแรกเยอะเลย
แต่ก็ยังมีอาการชา
ที่ช่วงปากอยู่ค่ะ
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะเข้ามาเช็คดูอีกครั้งค่ะ
ว่าเรามีปัญหาอะไร เคสของเราเป็นยังไงบ้าง
คุณหมอก็จะเข้ามาจับๆ
ใบหน้าเรา
แล้วก็แจ้งว่าตอนนี้มันยังบวมอยู่นะ เดี๋ยวถ้าหายบวมแล้ว
จะสวยขึ้นอีกเยอะเลย 555555
พอเสร็จแล้ว
เราก็ไปทำทรีทเมนต์ลดอาการบวมต่อค่ะ
ซึ่งเป็นการดูแลหลังผ่าตัด
ที่เราชอบมากๆเลย เพราะว่าเมื่อทำทรีทเมนต์แล้ว
นอกจากจะรู้สึกหน้าเกลี้ยง เนียน
สบายแล้ว ตื่นขึ้นมาตอนเช้า
เรารู้สึกว่า
อาการบวมหายไปเยอะเลยค่ะ
หลังผ่าตัดวันที่ 7
พอครบเจ็ดวัน เราก็ต้องเข้าไปที่
รพ.เพื่อเช็คอัพและทำทรีทเมนต์อีกรอบค่ะ
เช็คอัพ ก็ทำเหมือนเดิม ก็คือ
จะมีล้างแผล ดูอาการ คุณหมอเข้ามาเช็ค
แล้วก็ทำทรีทเมนต์ ลดบวมค่ะ
ตอนนี้เรารู้สึกว่าช่วงคางกับกราม
อาการบวมมันลดเยอะมาก เริ่มเห็นไลน์หน้า
ไลน์คางชัดเจนเลยค่ะ
จากเดิมนี่คือ คางจะทู่ๆมากเลย
ตอนนี้ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเหมือนคนอื่นเขาแล้ว
ดีใจมากๆเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ยังต้องขยันประคบเย็น เพื่อลดอาการบวม
กินอาหารอ่อนๆอยู่ค่ะ
ต้องเลี่ยงอาหารเผ็ดๆ แข็งๆ หรือว่าเลี่ยนๆ
เพราะว่ามันจะระคายต่อแผลในปาก
หรืออาจะอักเสบได้ค่ะ
อยากจะสวยก็ต้องอดทนเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ
หลังผ่าตัด
10 วัน
พอครบ 10 วัน
อาการบวมตรงช่วงแก้มแล้วก็ตรงโหนกแก้ม
นี่ลดไปจนสังเกตุได้เลยค่ะ
ตอนผ่าตัดแรกๆนี่แบบ เต่งตึง
แก้มบวม เหมือนอมอะไรไว้ตลอดเวลา
55555
ตอนนี้
ตรงช่วงแก้มก็ลดลงไปเยอะเลย ชอบมากๆ
แล้วก็ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ
ตรงไลน์หน้าก็เห็นชัดเจนขึ้นด้วย
หลังผ่าตัด
2 อาทิตย์
พบครบ 2 อาทิตย์เรา
ก็เข้าไปพบคุณหมอ ไปเช็คอัพแล้วก็
ทำทรีทเมนต์ลดบวมอีกรอบค่ะ 555
ก่อนพบคุณหมอ
คุณพยาบาลก็จะมาทำความสะอาดแผลให้เรา
เช็คอาการต่างๆนาๆให้
แล้วก็ตัดไหมให้เราค่ะ
ซึ่งจะต้องตัดไหม สองส่วนค่ะ
ส่วนแรก ก็คือ ตรงจอนข้างหู
กับส่วนที่สอง คือในช่องปากค่ะ
ตรงจอนข้างหู เวลาตัดไหมก็จะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ
เจ็บนิดเดียว
เมื่อตัดเสร็จก็จะใช้เทปติดกันน้ำเอาไว้ค่ะ
คุณพยาบาลก็จะแจ้งว่า
เดี๋ยวมันอาจจะตกสะเก็ดนะ
แต่ไม่ต้องไปแกะอะไรมัน 5555
ส่วนตัดไหมในช่องปาก
นี่เจ็บมาเลยค่ะ แต่ก็คิดว่า
เป็นการเจ็บรอบสุดท้ายก็แล้วกัน
ก็เลยกัดฟันทนค่ะ
หลังจากนั้นคุณหมอ
ก็จะเข้ามาดูอาการเราอีกรอบค่ะ
ว่ากระดูกมันเข้าที่ดีรึยัง
มาจับๆดู แล้วก็บอกว่าไม่มีปัญหาค่ะ
เดี๋ยวประมาณ 3-6 เดือน
อาการบวมทั้งหมดถึงจะหาย
จึงจะสามารถเห็นผลหน้าที่ชัดเจนสุดท้ายได้ค่ะ
ซึ่งตอนนี้
เราก็คิดว่าหน้าเราก็เล็กลงจากเดิมเยอะแล้วค่ะ 5555
หลังศัลยกรรม
3 อาทิตย์
ครบ 3 อาทิตย์แล้วค่ะ
ตอนนี้แทบจะมองไม่ออกแล้วนะคะ
ว่าไปทำศัลยกรรมมา
อาการเจ็บปวดก็หายไปมหดแล้ว
แต่ก็ยังไม่อาการชาช่วงคาง
ช่วงปาก เป็นบางครั้งค่ะ
ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า ต้องใช้เวลา
3-6 เดือนค่ะ อาการชาต่างๆ
ถึงจะหายไปทั้งหมด
แต่แค่สามอาทิตย์ เราก็ถือว่า
พอใจในผลการผ่าตัดมากๆเลยค่ะ
หลังศัลยกรรม
1 เดือน
ตอนนี้เราก็กลับมาญี่ปุ่นแล้วค่ะ
ออกไปเที่ยวเล่นเจอเพื่อนได้ตามปกติ
ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
เพื่อนๆหลายคน ตกใจมากๆ ถามว่าไปทำไรกับหน้า
หน้าเล็กลงไปมากก
นน.ลดลงด้วยใช่ไหม ปลื้มมมมากเลยค่ะ
ที่จริงคือ น้ำหนักเราเท่าเดิมเลย
แต่คือหน้ามันเล็กลงไปมากทุกๆคน
ก็เลยคิดว่า น้ำหนักเราลงไปด้วย
แต่ที่จริงไม่ใช่เลยค่ะ
ชอบมากเลยค่ะ
เวลามีคนชมว่าเราหน้าเล็ก หน้าเรียว ปลื้มอย่างแรง 55
พอเอารูปตอนก่อนทำมาดู
แทบอยากจะโยนทิ้งเลยค่ะ 555
ตอนนั้นหน้าบานมากๆ
รู้สึกเสียใจค่ะ ว่าทำไม ไม่ตัดสินใจทำศัลยกรรม
ให้เร็วกว่านี้ ถ้าทำเร็วกว่านี้
ก็คงสวยไปนานแล้ว 55
หลังศัลยกรรม
2 เดือน
เย่ๆๆๆ พอครบสองเดือนเนี่ยย
หน้าแทบจะออกมาธรรมชาติมากเลยค่ะ
ตอนนี้ ก็ชอบออกไปเที่ยวข้างนอก
ออกไปเจอเพื่อนมากเลยค่ะ
รู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก
เมื่อมีความมั่นใจ
เวลาทำอะไรก็รู้สึกว่า
ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่นค่ะ
เวลาพูดกับคนอื่น
ก็กล้าสบตามองหน้าได้อย่างเต็มที่
หน้าก็เรียวมากขึ้น
โหนกแก้มที่เคยนูนออกมา ก็หายไปหมดเลย
อาจจะมีเจ็บตรงช่วงแก้มบ้าง
แต่ก็ไม่ได้รุนแรง หรือมีปัญหาอะไรค่ะ
ปกติเวลายิ้ม
โหนกแก้มนี่พุ่งออกมามาก แก้ม กรามที่ออกมาหมดเลย
เดี๋ยวนี้คือหน้าเล็กลงเลย
ไม่มีปัญหาแบบเมื่อก่อนแล้ว ชอบมากๆค่ะ
หลังศัลยกรรม
3 เดือน
พอครบสามเดือนแล้ว
ใบหน้าเริ่มออกมาธรรมชาติมากกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ
เราเอารูป ที่ถ่ายตอนทำเสร็จช่วงแรกๆมาเปรียบเทียบกันดู
รู้สึกว่าอาการบวมแล้ว แทบจะหายไปหมดแล้วค่ะ
หน้าก็เล็กลงมาก
ปลื้มอก ปลื้มใจมากเลยค่ะ
แต่ก่อนนี่เวลาจะออกไปไหน ก็ต้องหาอะไรปิดหน้า
ใส่หมวกบ้าง ทำผมปิดกรามบ้างอะไรบ้าง
ตอนนี้สามารถรวบผม
ออกไปข้างนอก หรือว่าถ่ายรูปได้อย่างมั่นใจเลยค่ะ
เวลาถ่ายรูปออกมา
หน้าก็จะเล็กลงกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ เรียวด้วย
เพื่อนๆบอกว่า นี่เธอ
อย่ามาถ่ายรูปกับฉันนะ หน้าเธอมันเล็ก
ยิ่งทำให้หน้าฉันดูใหญ่ 55555
ตลกมากเลยค่ะ
เรารู้สึกพอใจมากๆเลยค่ะ
กับการตัดสินใจทำศัลยกรรมของเราครั้งนี้
ไม่ใช่แค่ว่าหน้าเรียวขึ้นเล็กขึ้นนะคะ
แต่มันช่วยสร้างความมั่นใจ
ให้เราด้วย
ชอบออกไปเที่ยวไปเจอผู้คนมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนไม่ใช่เลยค่ะ
แต่ก่อนนี่ชอบเก็ตัว
เวลาคุยกับคนอื่นก็ไม่กล้าสบตา จ้องหน้า
เดี๋ยวนี้เราเปลื่ยนไปเป็นอีกคนเลยค่ะ
รู้สึกว่าเราได้เปิดโลกใหม่
ได้ลองทำอะไรที่เราไม่เคยค่ะ
ปลื้มมากค่ะ ชีวิตดีค่ะ 5555
เป็นยังไงบ้างคะ ดูหน้าเล็กลง และเด็กลง มากเลยใช่ไหมคะ??
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากมีประสบการณ์
มาศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี เพื่อแก้ไขจุดบ่กพร่อง
ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย สามารถแอดไลน์มาปรึกษาได้เลยนะคะ
ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัย สามารถแอดไลน์มาปรึกษาได้เลยนะคะ
เรามีเจ้าหน้าที่ใจดี ที่เชี่ยวชาญคอยตอบปัญหาเพื่อนๆอยู่ค่ะ
สามารถแอดไลน์มาสอบถามราคา,จองคิว และรายละเอียดอื่นๆได้ค่ะ
หรือจะสามารถตรวจสอบราคาค่าศัลยกรรมต่างๆ จากในเว็บของเรา
เราก็มีข้อมูลต่างๆและรายละเอียดระบุไว้ในเว็บไซต์ของเราค่ะ
ซึ่งเมื่อตัดสินใจมาทำศัลยกรรมกับ รพ.ไอดีของเราแล้ว
เราจะมีบริการต่างๆดังนี้ค่ะ
1. รถไปรับจากสนามบิน,
2. บริการรถรีมูซีน รับ-ส่ง ระหว่างที่พัก
3. บริการจองโรงแรมราคาพิเศษ
4. บริการล่าม ไทย-เกาหลี ดูแลตลอดเวลาที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.
และบริการอื่นๆสามารถสอบถามรายละเอียดผ่านทางไลน์ค่ะ
***ติดต่อปรึกษาสอบถามได้ที่***ภาษาไทย โทร : +82-2-3496-9784 (จ-ศ:7.00-16.00)เว็บไซต์:http://th.idhospital.com/email : thai@idhospital.com บล็อก:http://idhospitalthai.blogspot.kr/instagram : http://instagram.com/thidhospitalLINE ID : idhospital
댓글 없음:
댓글 쓰기